10 ข้อดี ของการสร้างบ้านด้วยแผ่นพรีคาสท์

 

1. การก่อสร้างมีคุณภาพสม่ำเสมอมาตรฐานเดียวกัน เพราะกระบวนการผลิตชิ้นงานคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปทุกขั้นตอนถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ทำให้งานจะออกมาดีกว่า ไม่มีปัญหาเรื่อง ฉาบปูนไม่ดี กำแพงไม่เรียบ หรือเสาเอียง และคุณภาพดีกว่าการใช้แรงงานคน

 

 2. คงทนแข็งแรงแม้กระทั่งแผ่นดินไหว ชิ้นงานมีค่าความแข็ง (Stiffness) สูงกว่าระบบเสาโครง และผนังก่ออิฐ จึงมีความคงทนแข็งแรง และใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักชั้นบนได้ (Load Bearing Wall) ด้วยลักษณะโครงสร้างดังกล่าวทำให้ทนต่อแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวได้มากกว่าการก่อสร้างแบบผนังก่ออิฐทั่วไป

 

 3. ไม่ต้องห่วงเรื่องเสากลางบ้าน เพราะเป็นระบบการก่อสร้างที่ไม่มีเสาและคาน แต่ใช้ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เป็นตัวรับน้ำหนักของบ้าน ทำให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น และก่อให้เกิดความสวยงามในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์

 

 4. เรียบสวยเนี้ยบกว่า ชิ้นงานมีคุณภาพสม่ำเสมอ และขัดผิวจนเรียบจึงได้ระดับเท่ากัน ทาสี หรือตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์ได้ทันที ไม่มีปัญหาผนังเป็นคลื่นเหมือนการก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป

 

 5. ช่วยป้องกันความร้อน มีค่าความเป็นฉนวนสูง จึงสามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกได้ดี

 

 6. มีความต้านทานไฟสูงกว่า เพราะคอนกรีตมีคุณสมบัติที่ทนไฟมากกว่ากำแพงก่ออิฐ หรือผนังก่ออิฐฉาบปูนทั่วไป และมีส่วนช่วยป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามไปยังห้องข้างเคียงได้ด้วย ปกติแล้วคอนกรีตจะสามารถต้านทานไฟได้มากกว่า 2 ชั่วโมง ในขณะที่ผนังก่ออิฐฉาบปูนจะสามารถทนไฟได้ประมาณ 1 ชั่วโมง

 

 7. ป้องกันเสียงรบกวน วัสดุคอนกรีตเป็นวัสดุที่มีความทึบเสียงมากกว่าวัสดุประเภทอิฐและไม้ จึงสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก หรือเสียงดังจากห้องข้างเคียงได้ดีกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน

 

 8. ต้านทานการซึมน้ำสูง ทำให้สีพื้นผิวมีความคงทน สวยงาม และไม่เกิดเชื้อรา โดยปกติ เมื่อมีฝนตก ผนังคอนกรีตสามารถป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดีกว่าอิฐซึ่งมีความพรุนสูงทำให้เมื่อมีน้ำ หรือฝนตก อิฐจะดูดซึมน้ำ หรือความชื้นเข้ามาที่ผนัง ทำให้อาจเกิดเชื้อรา หรือสีร่อนได้

 

 9. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลภาวะทางเสียง ฝุ่น เศษอิฐ เศษปูน ขยะจากคนงานก่อสร้าง และปัญหาการจราจรในสถานที่ก่อสร้าง

 

 10. ค่าเบี้ยประกันภัยและค่าบำรุงรักษาต่ำ เพราะเทคโนโลยีพรีคาสท์ทำให้บ้าน และอาคารมีความแข็งแรง คงทน และมีอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยต่ำกว่าโครงสร้างประเภทอื่นๆ และยังส่งผลให้ค่าบำรุงรักษาต่ำ เนื่องจากจะเสียค่าใช้จ่ายในการทาสีใหม่ในรอบ 8-10 ปี เท่านั้น